4 ท่าอุุ้มให้ลูกเรอ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืม

4 ท่าอุุ้มให้ลูกเรอ คุณพ่อคุณแม่ไม่ควรลืม

คุณแม่มือใหม่ ที่อยู่ในช่วงให้นมลูกลทราบไหมคะ ว่าในช่วงที่ให้นมลูกอ่อน อายุ 0-3 เดือน ลูกมักจะมีแก๊สสะสมในกระเพาะ ซึ่งสาเหตุหลักๆที่ทำให้เกิดแก๊สนั่นก็คือ ลูกกลืนอากาศเข้าไปเยอะ ระบบย่อยอาหารที่เปลี่ยนบางส่วนให้กลายเป็นแก๊ส หรือการแพ้นมต่างๆ นั่นเอง ซึ่งทางกำจัดแก๊สก็คือการเรอออกมาก แต่ด้วยวัย และพัฒนาการของเด็กแรกเกิดไม่สามารถที่เรอได้ด้วยตัวเอง คุณแม่หรือคุณพ่อจึงจะต้องช่วยและจับให้ลูกเรอบ่อยๆ เพื่อจะได้ไม่มีแก้สะสมอยู่ในท้องเยอะ ซึ่งจะส่งผลต่างๆ ให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว อึดอัด เกิดอารมณ์จะบ่จอยขึ้นได้ค่ะ Mummily จะพาคุณพ่อคุณแม่มารู้จักกับท่าต่างๆ ที่จะจับลูกเรอในระหว่างของการกินนมและหลังกินนมกัน ดังนี้ค่ะ เริ่มจากท่าง่ายๆ อย่างอุ้มพาดบ่าปกติ ท่านี้ดูเหมือนเป็นท่าง่ายๆ แต่ถ้าอุ้มไม่ถูกก็อาจจะทำให้ลูกแหวะนมออกมาได้ เพราะฉะนั้นแนะนำคุณแม่มือใหม่เลยค่ะว่าควรมีผ้าอ้อมรองไว้ที่บ่า ประคองคอของลูกดีๆ อุ้มลูกแนบชิดกับหน้าอกของแม่เลย พร้อมกับลูบหลังลูกเบาๆ ต่อมาเป็นท่านั่งตัก โดยเอนหน้าของลูกไปข้างหน้าเล็กน้อย ซึ่งท่านี้ก็ควรที่จะมีผ้าอ้อมผูกไว้ด้านหน้าของลูกด้วยเช่นกัน กันลูกแหวะนม และท่านี้จะต้องใช้นิ้วชี้และนิ้วโป้งที่คางเพื่อประคองคอและศีรษะของลูกเอาไว้ด้วยค่า พร้อมกับลูบหลังลูกเบาๆ ต่อมาเป็นท่าที่จับลูกนอนคว่ำบนตัก ท่านี้ต้องระวังไม่ให้ลูกทับแขนตัวเองและคุณแม่ต้องคอยประคองหน้าอกและไหล่ของลูกไว้ พร้อมกับลูบหลังลูกเบาๆ ต่อมาเป็นท่าที่จับลูกนอนนอนหงายบนตัก แต่จะจัดขาลูกให้งอขึ้นที่หน้าอก ท่านี้จะช่วยได้ดีหากลูกไม่ยอมเรอสักที่ เพราะเป็นท่าที่จะช่วยระบายลม แก๊สที่สะสมออกจากช่องท้องได้นั่นเองค่า ท่าอุ้มเรอแต่ละท่า เป็นท่าที่ทั้งคุณพ่อคุณแม่สามารถผลัดกันทำได้ หากทำอย่างถูกต้อง จับให้ลูกเรอบ่อยๆ ก็จะดีต่อลูกน้อยมากๆ และจะช่วยขับลม ทำให้ระบบย่อยอาหารของลูกดี รู้สึกสบายตัวอีกด้วยค่ะ…

6 เคล็ดลับฝึกลูกเลิกขวดนม

6 เคล็ดลับฝึกลูกเลิกขวดนม

เด็กๆกับนมเป็นของคู่กันเสมอ แต่เมื่อถึงเวลาที่สมควร การดูดนมจากขวดอาจไม่ดีกับลูกน้อยเสมอไป‼️ เพราะการดูดนมจากขวดนานเกินไปมีข้อเสียหลายประการ ตั้งแต่ฟันผุ ฟันยื่น วันนี้ Drink in the Box จึงมี 6 เคล็ดลับง่ายๆ ฝึกให้ลูกเลิกขวดนม ได้ผลแน่นอน ค่อย ๆ ลดปริมาณทีละนิด ค่อยๆลดปริมาณนมในขวดลงเรื่อยๆ รวมถึงงดมื้อนมที่ไม่สำคัญออกไป เช่น มื้อกลางวัน หรือมื้อดึกหลังเที่ยงคืน ฝึกดื่มนมจากถ้วยหัดดื่ม หาสิ่งทดแทน โดยฝึกให้ลูกใช้แก้วน้ำ ถ้วยหัดดื่ม หรือกระติกน้ำ ที่ลูกสามารถยก หยิบ จับเองได้ เจือจางนมผสมกับน้ำ แอบผสมน้ำเปล่าเพิ่มเข้าไปในขวดทุกครั้งที่ชง เพื่อให้รสชาติของนมเจือจางลงเรื่อย ๆ เมื่อลูกน้อยได้กิน จะรู้สึกว่านมในขวดไม่อร่อยเหมือนเก่า คุณแม่อาจบอกลูกล่วงหน้า อธิบายเหตุผล พูดคุยกับลูกตรงๆ(วิธีหักดิบที่ได้ผลทันที) และเมื่อถึงเวลาคุณแม่ต้องทิ้งหรือวางขวดนมไว้ให้พ้นสายตาลูก หากิจกรรมกับลูกแทนดื่มนมมื้อก่อนนอน (เพราะมื้อก่อนนอนสำคัญที่สุดต้องเลิกให้ได้) ฝึกการแปรงฟันก่อนนอน แล้วพาเข้านอนโดยเล่านิทาน ร้องเพลง หรือทำกิจกรรมอื่น ให้รางวัลลูกเมื่อไม่ดูดนมขวดตลอดวันหรือตลอดคืน คุณพ่อคุณแม่ควรให้ลูกเลิกขวดนมตอนช่วงอายุกี่ขวบ? ช่วงอายุที่เหมาะสมในการเลิกขวดนม คือช่วงอายุ 1 ปี ถึง…

10 วิธีเลือกรถเข็นเด็กให้ปลอดภัย

10 วิธีเลือกรถเข็นเด็กให้ปลอดภัย

บ้านไหนมีแพลนพาเจ้าตัวน้อยไปเที่ยวบ้างคะ เตรียมอุปกรณ์ ของอำนวยความสะดวกต่างๆกันครบหรือยังคะ ยิ่งบ้านมีเด็กเล็กมาก ไอเทม รถเข็นเด็กเป็นตัวช่วยให้คุณพ่อคุณแม่สะดวกยิ่งขึ้น ทำอะไรต่าง ๆ ได้ง่ายขึ้น โดยที่ไม่ต้องคอยระวังกับการอุ้มลูกน้อย แถมยังช่วยลดอาการปวดหลังของคุณพ่อคุณแม่ได้อีกด้วย เที่ยวได้อย่างสนุกสุดๆไปเลยค่า Mummily มี 10 วิธี เลือกอย่างไรให้ปลอดภัย และใช้ได้นาน มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่า รถเข็นแบบที่สามารถปรับระดับเบาะนั่งและนอนได้ ควรเลือกรถเข็นแบบที่สามารถปรับระดับเบาะนั่งและนอนได้ เพราะทารกควรนั่งรถเข็นในท่านอน เนื่องจากคอที่ยังไม่แข็งแรง และเมื่อคอแข็งมากขึ้น ก็สามารถปรับระดับรถเข็นให้เหมาะสมกับท่านั่งของเด็กได้ รถเข็นต้องดูมั่นคงแข็งแรง การออกแบบ ต้องมั่นใจว่าไม่เป็นอันตรายกับลูกน้อย ต้องดูมั่นคงแข็งแรง วัสดุไม่แหลมคม หรืออาจเป็นอันตรายกับลูกได้ นอกจากนี้การออกแบบยังต้องคำนึงถึงสรีระของลูกน้อย ไม่ทำให้นั่งแล้วไม่สบายตัวหรือเมื่อยอีกด้วยค่า สายรัดและตัวล็อคที่แน่นหนา ตัวล็อกที่ควรมี ได้แก่ ล็อกเอว ระหว่างขาและไหล่ ซึ่งตัวล็อกควรจะแน่นหนา ไม่ดึงหลุดง่าย ในขณะเดียวกันก็ไม่แน่นสำหรับเด็กจนเกินไป และปลดเข้าออกได้ไม่ยาก ควรมีระบบเบรกหรือล้อคล้อ ก่อนซื้อควรทำการทดสอบที่ร้านเลยว่าระบบเบรกดีหรือไม่ ตัวล็อกรถหรือห้ามล้อหยุดดีหรือเปล่า เพราะเป็นเรื่องของความปลอดภัยมากๆ ล้อต้องมีความแข็งแรง และสามารถเคลื่อนตัวได้ดี ระบบล้อคือส่วนที่จะช่วยให้รถเคลื่อนไปข้างหน้าได้ และสำคัญที่สุดเลยก็ว่าได้ คุณพ่อคุณแม่จึงควรเลือกรถเข็นเด็กที่ถูกออกแบบมาให้เหมาะสมกับพื้นผิวขรุขระหรือสิ่งกีดขวางต่างๆ แะละสามารถเคลื่อนตัวได้ดี วัสดุที่ใช้ควรสามารถถอดหรือเช็ดทำความสะอาดได้ง่าย การใช้งานรถเข็นอาจมีการป้อนข้าว ทานขนมไปด้วย…

7 เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกอมข้าว

7 เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกอมข้าว

ปัญหาลูกอมข้าว ปัญหาขัดใจแม่ ในช่วงเด็กอายุ 1-3 ปี บ้านใครกำลังเจอปัญหานี้อยู่บ้างคะ? หลอกล่อก็แล้ว พูดโน้มน้าวก็แล้ว ลูกก็ยังอมข้าวไม่ยอมเคี้ยวสักที วันนี้ Drink in the Box มี 7 เคล็ดลับแก้ปัญหาลูกอมข้าว มาแนะนำคุณพ่อคุณแม่กันค่า งดให้นม งดขนมก่อนมื้ออาหาร จัดเวลามื้อของว่างให้เหมาะ คุณพ่อคุณแม่ควรงดของว่างจำพวกขนม หรือของหวานต่างๆ ก่อนอาหารมื้อหลัก เพราะถ้าลูกกินขนมมากเกินไปจะทำให้อิ่มจนไม่อยากกินข้าวได้ กินข้าวให้ตรงเวลา ลองฝึกให้ลูกกินอาหารให้เป็นเวลาทั้ง 3 มื้อ และที่สำคัญคุณพ่อคุณแม่เองควรกินข้าว พร้อมกับลูก เพื่อเป็นตัวอย่างที่ดีให้ลูกเรียนรู้ที่จะทำตามเลยค่า อย่าใช้เวลาในการทานนานเกินไป การที่ให้ลูกใช้เวลากินข้าวไปเรื่อยๆ ไม่มีกำหนดขอบเขตเวลา ถือเป็นเรื่องไม่ดีนะคะ เพราะการพยายามให้ลูกกินหมดชามคุณแม่อาจเข้าใจว่าภารกิจประสบความสำเร็จ แต่ความจริงแล้วทำให้ลูกไม่มีวินัยในการกินนั่นเองค่า เพราะฉะนั้นควรกำหนดระยะเวลาในการกินข้าวให้ชัดเจน หมดเวลาก็เก็บได้เลย ไม่เล่นระหว่างกินข้าว ให้ลูกมุ่งความสนใจไปที่การกินอาหาร กินไปเล่นไปเด็กจะสนใจการเล่น เวลาลูกกินทุกคำที่ป้อนโดยไม่รู้ตัวเหมือนจะดี แต่ก็จะลืมเคี้ยวนั่นเองค่า ไม่ให้ดูโทรทัศน์ใช้แทบเล็ตหรือมือถือระหว่างกินข้าว เด็กในช่วงอายุ 1-3 ปี จะเป็นช่วงเรียนรู้ ซึ่งสิ่งต่าง ๆ เหล่านี้จะดึงดูดความสนใจของลูกออกไปจากการกิน และควรตัดสิ่งเร้าต่างๆ ออกไป…

6 เคล็ดลับเลือกที่นอนเด็ก

6 เคล็ดลับเลือกที่นอนเด็ก

การนอน คือเรื่องที่สำคัญที่สุด ฉะนั้นการเลือกที่นอนให้คุณลูกก็เป็นอีกหนึ่งสิ่งที่ไม่ควรมองห้าม เพราะหากลูกน้อยไม่ได้รับการนอนหลับที่เพียงพอ แน่นอนผลลัพท์ที่คุณพ่อคุณแม่เห็นก็คือ ภาวะขาดการนอนหลับ อาการสะลึมสะลือ ไม่สดชื่น ซึ่งอาจส่งผลต่อสุขภาพของลูกน้อยมากกว่าที่คุณคิดเลยล่ะค่ะ วันนี้ Mummily มี 6 เคล็ดลับ เลือกที่นอนให้ลูกน้อยหลับสบายมาฝากกันค่า ระดับความแข็งต้องกำลังพอดี ไม่แข็งหรือนิ่มมากเกินไป ไม่ว่าเป็นทารก เด็กอ่อน หรือเด็กเล็กควรเลือกระดับความแข็งของที่นอนให้อยู่กลาง ๆ เพราะถ้าแข็งเกินไปจะทำให้ลูกรู้สึกไม่สบายตัว แต่ถ้าอ่อนนิ่ม หรือยุบตัวง่าย และเมื่อเวลาที่ลูกน้อยนอนคว่ำอาจเกิดความเสี่ยงจากใบหน้าที่จมลงไปจนถึงขั้นขาดอากาศหายใจและเสียชีวิตได้เลยเลยค่า ไม่ควรเลือกที่นอนแบบมีร่อง เพราะร่องเตียงนั้นเสี่ยงต่อการที่ลูกกลิ้งตกลงไปได้ง่ายมาก บาดเจ็บทางร่างกาย รวมถึงอาจขาดอากาศหายใจถ้าคว่ำหน้าแล้วตกลงไปในร่องนั้นๆอีกด้วย ดังนั้นคุณพ่อคุณแม่ควรเลือกเตียงผืนเดียวกันมากกว่าเตียงที่นำมาต่อกันจนเกิดเป็นร่องจะดีกว่าค่า เลือกจากวัสดุของที่นอนเด็ก ข้อนี้ถือว่าเป็นอีกหนึ่งข้อที่สำคัญมาก เพราะอากาศที่ร้อนแบบบ้านเรา การที่เด็กนอนบนที่นอนที่ร้อนและอับชื้น อาจทำให้หนูน้อยนอนหลับไม่สบายได้คุณพ่อคุณแม่จึงควรคำนึงถึงวัสดุที่ใช้ทำ อย่างเช่นที่นอนยางพารา ตัวที่นอนจะมีรูเล็กๆจำนวนนับล้าน เพื่อระบายอากาศ ซึ่งไม่ก่อให้เกิดอาการอับชื้น ไม่สะสมความร้อน จึงทำให้ลูกน้อยนอนหลับได้อย่างผ่อนคลายเย็นสบายอีกด้วยค่า ไม่ควรเลือกที่นอนมีรอยยุบไม่ว่าจุดไหนก็ตาม บางคนได้รับที่นอน ต่อมาจากเพื่อน ญาติพี่น้อง หรือแม้แต่จากลูกคนแรก ก็ต้องสังเกตดี ๆ ว่าอย่าให้มีจุดยุบตัวในทุกๆ ส่วนขอที่นอนดังกล่าว เนื่องจากเด็กวัยนี้กระดูกยังไม่แข็งแรง การที่เขานอนในลักษณะผิดท่าทางอาจมีผลต่อการเจริญเติบโตของกระดูกได้ นอกจากนี้คุณแม่ยังสามารถเลือกที่นอนที่มีความหยืดหยุ่น และคืนตัวได้ดี เพื่อลดการเกิดเหตุการณ์ข้างต้นได้ค่า…

5 สูตรอยู่หมัดพร้อมวิตามินสำหรับเด็ก

5 สูตรอยู่หมัดพร้อมวิตามินสำหรับเด็ก

บ้านไหนมีคุณลูกวัยกำลังซนบ้างคะ เมื่อลูกเริ่มโตอยู่ในช่วง 1-3 ขวบ ก็เริ่มพัฒนาการทั้งทางด้านรางกายและจิตใจ อยากเรียนรู้ ติดเล่นสนุก คุณพ่อคุณแม่จึงต้องมีการเตรียมตัว ในการรับมือ ฝึกและสอนเด็กๆในเรื่องต่างๆ ซึ่งอีกหนึ่งปัญหาที่พบบ่อย คือเรื่องการดื่มน้ำของเด็กๆ ไม่ค่อยดื่มน้ำ ดื่มน้ำยาก หรือดื่มน้อยมาก ยิ่งช่วงติดเล่นด้วย สนุกและเพลิดเพลินจนลืมที่ดื่มน้ำให้เพียงพอต่อร่างกาย จะบังคับก็ไม่ใช่เรื่องวิธีที่ดีมากนัก การฝึกให้ลูกๆชอบดื่มน้ำก็มีหลายหลายวิธีเลยค่ะ ทั้งเริ่มต้นจากให้คุณพ่อคุณแม่ดื่มน้ำเป็นตัวอย่าง และสอนให้ลูกค่อยๆดื่มน้ำทีละนิด ซึ่งคุณพ่อคุณแม่อาจจะใช้วิธีอ้อมๆโดยพยายามเลือกเมนูอาหาร หรือ ทำอาหารที่มีน้ำเป็นส่วนประกอบ เช่น ต้มจืด หรือมีน้ำซุปควบคู่กับอาหารมื้อนั้นๆ เพราะจะทำให้ลูกได้ซดน้ำนั่นเองค่ะ รวมไปถึงภาชนะที่ใส่ข้าวหรือใสน้ำดื่ม ก็ควรมีสีสันและสวดลายที่ดึงดูดเด็กๆด้วย คุณพ่อคุณแม่อาจจะพาเด็กๆไปเลือกซื้อกระติกน้ำใบโปรดด้วยตัวเองเลยก็ได้ ซึ่งก็จะทำให้ลูกได้มีส่วนร่วมและอยากที่จะใช้ หมั่นหยิบกระติกน้ำมาดื่มนั่นเองค่ะ อีกหนึ่งวิธีก็คือหาเมนูน้ำอื่นๆ เพราะลูกๆอาจจะเบื่อน้ำเปล่า อยากดื่มน้ำหวานๆหรือมีรสชาติก็เป็นได้ค่ะ ซึ่งในแต่ละวันคุณพ่อคุณแม่อาจจะต้องเตรียมเมนูน้ำให้ลูกหลากหลายแบบ ให้สลับไปแต่ละมื้อ โดยอาจจะเลือกผักหรือผลไม้ที่ลูกชอบ ให้ลูกรู้สึกว่าไม่น่าเบื่อและอยากที่จะดื่ม ซึ่งการทำน้ำผักผลไม้ จะเป็นการฝึกลูกให้กินผักชนิดนั้นๆเป็นด้วย อีกทั้งยังได้รับคุณประโยชน์จากผักและผลไม้ชนิดนั้นๆด้วยค่ะ น้ำผักผลไม้มีวิธีทำหลายแบบ หลากหลายสูตรมาก จะปั่นหรือผสมน้ำเปล่าง่ายๆปกติเหมือน Infused Water แล้วแช่เย็น คุณพ่อคุณแม่สามารถนำมามิกซ์กันได้หมดเลย ซึ่งก็จะได้รสชาติเป็นความแปลกใหม่ เป็นความสนุกอีกอย่าง วันนี้ Drink in…