3 วิธีเลือกแปรงล้างขวดนม ที่คุณแม่ต้องรู้!

สิ่งสำคัญที่สุดอันดับแรกในการเลือกแปรงล้างขวดนม คือ เลือกวัสดุแปรงที่เหมาะสมกับวัสดุของขวดนมที่คุณใช้ สำหรับประเภทของแปรงล้างขวดนมที่ขายกันในปัจจุบันนั้นก็จะมีวัสดุอยู่ 3 แบบด้วยกัน คือ

1. ประเภทฟองน้ำ

แปรงฟองน้ำเป็นประเภทที่นิยมใช้กันมากที่สุดเพราะสามารถใช้ได้กับทั้งขวดนมแบบพลาสติกและขวดแก้ว ฟองน้ำที่นำมาทำแปรงล้างขวดนมจะนิ่มช่วยถนอมขวดนมไม่ให้เกิดรอยขีดข่วนภายใน รอยขีดข่วนนั้นจะก่อให้เกิดการเข้าไปสะสมของคราบนมหรือสิ่งสกปรกเข้าไปฝังอยู่ ก่อให้เกิดการสะสมของเชื้อโรค คุณพ่อคุณแม่ควรทำการเปลี่ยนบ่อยกว่าการใช้วัสดุประเภทอื่นเพื่อสุขอนามัยและการใช้งานที่มีประสิทธิภาพค่ะ

2. ประเภทขนแปรงไนลอน

แปรงประเภทขนไนลอนสามารถใช้ล้างขวดแก้วได้ไม่มีปัญหา แต่หากคุณต้องการใช้กับขวดนมพลาสติก คุณต้องพิจารณาเรื่องขนแปรงให้ดี เพราะถ้าขนแปรงแข็งหรือหนาเกินไปอาจทำให้ขวดเป็นรอยได้ เป็นแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ ข้อดีของแปรงไนลอนคือ ระบายน้ำและความชื้นได้ดีกว่าแบบฟองน้ำจึงทำความสะอาดและเก็บรักษาง่ายกว่า และมีความทนทานกว่าฟองน้ำ

3. ประเภทซิลิโคน

แปรงซิลิโคนนั้นค่อนข้างได้รับความนิยมในช่วงปัจจุบัน เพราะขนแปรงนิ่มและมีความยืดหยุ่นจึงสามารถใช้ได้ดีกับทั้งขวดแก้วและขวดพลาสติก ทั้งยังแห้งเร็ว ไม่อมน้ำจึงไม่ก่อให้เกิดความอับชื้นซึ่งจะเป็นที่มาของแหล่งสะสมเชื้อโรคได้ นอกจากนี้ยังดูแลรักษาง่ายเพราะทนความร้อนได้ คุณจึงสามารถนำไปต้มเพื่อฆ่าเชื้อ มีการใช้งานได้ทนทานยาวนาน แต่ข้อเสียคือ มีราคาสูงกว่าแปรงประเภทอื่น ๆ ค่อนข้างมากเลยทีเดียว

แต่ละแบบนั้นก็จะมีคุณสมบัติที่ต่างกันออกไป คุณเพียงพิจารณาวัสดุที่เหมาะสมกับขวดนมและความสะดวกในการนำไปใช้งานของตัวคุณเองแค่นั้นก็เพียงพอ

ติดตามเรื่องราวดี ๆ จากเราได้ที่ mummily.com

ติดต่อเราได้ที่ 02-866-8080

Line: @mummily

Faecbook: https://www.facebook.com/themummily/

Similar Posts

  • 6 สารเคมีที่ควรเลี่ยงในเครื่องสำอางสำหรับคนท้อง

    การตั้งครรภ์ของคุณแม่ ทำให้ผิวพรรณมีการเปลี่ยนแปลงอย่างเห็นได้ชัด การเลือกใช้เครื่องสำอางสำหรับคนท้องจึงเป็นเรื่องที่ต้องใส่ใจเป็นอย่างมาก เพราะส่วนผสมหรือสารเคมีบางชนิดอาจส่งผลกระทบต่อลูกน้อยในครรภ์ได้ วันนี้ Brusta มี 6 สารเคมีที่ควรเลี่ยงในเครื่องสำอางสำหรับคนท้อง มาบอกคุณแม่ให้ทราบกันค่า สารกลุ่มวิตามินเอหรือเรตินอยด์ (Retinoids) มักพบสารเคมีพวกนี้ได้ในยารักษาสิวหรือต้านริ้วรอย ซึ่งสามารถส่งผลให้เกิดความผิดปกติต่อลูกน้อยในครรภ์ ถึงขั้นเสี่ยงแท้งหรือพิการแต่กำเนิดได้เลย เพราะฉะนั้นคุณแม่ทั้งหลายควรงดใช้เครื่องสำอางสำหรับคนท้องที่มีส่วนผสมของสารกลุ่มวิตามินเอไปก่อนนะคะ alicylic Acid (BHA) เป็นส่วนผสมในเครื่องสำอางสำหรับคนท้องที่ควรดูให้ดีก่อนใช้ เพราะสารชนิดนี้ทำให้ผิวระคายเคืองได้ง่าย และยังเป็นสารที่ถูกดูดซึมเข้าสู่กระแสเลือดได้อีกด้วย หากจะใช้ต้องดูส่วนผสมว่ามี BHA ในความเข้มข้นต่ำไม่เกิน 2% จึงจะใช้ได้ แต่ทางที่ดีคุณแม่เลี่ยงได้ก็เลี่ยงจะดีกว่า Benzoyl Peroxide (BP) ส่วนมากเป็นยาใช้ทาก่อนล้างหน้าเพื่อรักษาสิว ออกฤทธิ์รุนแรง ส่งผลให้ผิวมีอาการระคายเคือง ไวต่อแสง แสบร้อน หรือมีผิวแตกแห้งได้ และในช่วงที่กำลังตั้งครรภ์ผิวของคุณแม่จะมีความ sensitive มากกว่าปกติ จึงควรหลีกเลี่ยงเพื่อความปลอดภัยเอาไว้ก่อนจะดีกว่า พาราเบน (Parabens) พาราเบน เป็นสารกันเสียที่คุณแม่ควรระวังและงดใช้มากที่สุด เพราะนอกจากจะพบได้ง่ายในผลิตภัณฑ์ทั่วไป อย่าง ผลิตภัณฑ์อาบน้ำทารก ครีมบำรุงผิว แชมพู ครีมนวดผมแล้ว ยังส่งผลต่อการตั้งครรภ์ถึงขั้นเสี่ยงแท้งหรือพิการแต่กำเนิด ไปจนถึงลูกอาจมีพัฒนาการผิดปกติได้ด้วย สารเคมีในน้ำหอม สารเคมีในน้ำหอม…

  • ชวนครอบครับทำกิจกรรมในวันคริสต์มาส

    ชวนครอบครับทำกิจกรรมในวันคริสต์มาส คริสต์มาส แต่ไม่คิดมากมาชวนลูกๆและคนในครอบครัวทำกิจกรรม อยู่ด้วยกันอย่างพร้อมหน้าพร้อมตา เพิ่มพูนความรักความอบอุ่น ให้คนในครอบครัวได้มีความสุขในช่วงเวลาที่แสนพิเศษนี้  ถ้าคิดไม่ออกว่าจะจัดกิจกรรมอะไร ให้เด็กๆและคนในครอบครัว ได้สนุกกัน วันนี้ Grace kids เอากิจกรรมดีๆมาฝากกัน 1. ทำขนมร่วมกัน เป็นการกระชับความสัมพันธ์ภายในครอบครัวไม่ว่าจะเป็น คุณพ่อ คุณแม่ คุณปู่ คุณย่า รวมไปถึงกลุ่มเพื่อนด้วย ขนมที่เลือกทำจะเป็นแบบง่ายๆไม่ยุ่งยากก็ได้ เช่น คุกกี้รูปต้นคริสต์มาส์ หรือคัพเค้ก ที่ให้เด็กๆได้แต่งเติมหน้าเค้กตามใจชอบ ก็เข้ากับบรรยากาศสุดๆไปเลย และยังนำขนมที่ทำด้วยรักนี้ไปฝากญาติผู้ใหญ่ในเทศการพิเศษแบบนี้ได้อีกด้วย 2. ให้ของขวัญ เป็นกิจกรรมยอดฮิตในวันคริสต์มาส ซึ่งอาจจะเป็นของขวัญเล็กๆน้อยๆมีคุณค่าทางจิตใจ ให้ได้ลุ้นได้แลกของขวัญกัน อาจรวมไปถึงการบริจาคสิ่งของให้ผู้อื่น เป็นการฝึกให้ลูกๆได้รู้จักการแบ่งปันอีด้วย ซึ่งกิจกรรมนี้เป็นที่ชื่นชอบทั้งเด็กและผู้ใหญ่กันเลยก็ว่าได้ 3. ออกไปดูไฟ ในช่วงคริสต์มาสแบบนี้สถานที่ต่างๆจะประดับประดาไปด้วยไฟ อย่างตระการตา เหมาะมากกับการพาเด็กๆไปถ่ายรูป เพราะแต่ละปี แต่ละสถานที่จะตกแต่งต่างกันออกไป เป็นกิจกรรมที่เก็บความทรงจำดีๆ ร่วมกันกับคนที่เรารักอีกด้วย 4. การแต่งต้นคริสต์มาส ไม่ใช่แค่แต่งต้นไม้ให้สวยงามตามความต้องการอย่างเดียว แต่ของที่นำมาใช้ในการแต่งต้นไม้นั้น ยังมีความหมายและคำอวยพรที่แตกต่างกันไป ถือว่าเป็นอีกหนึ่งกิจกรรมที่ทำร่วมกันกับคนในครอบครัวได้อย่างมมีความสุข 5. ส่งการ์ดคริสต์มาส  ไม่ต้องเป็นของที่มีราคาแพง ลงมือทำการ์ดเองเขียนคำอวยพรให้ญาติผู้ใหญ่…

  • 7 ของใช้จำเป็นที่ต้องเตรียมสำหรับพาลูกเที่ยว

    ทุกๆ เทศกาลไม่ว่าจะปีใหม่ สงกรานต์ วันหยุดยาว หรือแม้กระทั่งวันเสาร์อาทิตย์ หลายๆ ครอบครัวต้องมีแพลนไปเที่ยวต่างจังหวัด เปลี่ยนบรรยากาศกันใช่ไหมคะ รวมไปถึงบ้านไหนที่มีลูกวัยเตาะแตะ เริ่มโต ก็ต้องอยากพาลูกๆออกไปเรียนรู้ ผจญภัยนอกบ้าน เพราะจะช่วยเสริมสร้างพัฒนาการที่ดี ซึ่งการพาลูกๆวัยเตาะแตะออกนอกบ้าน เหมือนจะง่าย แต่ถ้าไม่เตรียมของจำเป็นไปให้พร้อม ก็งานหนักอยู่เหมือนกัน เพราะยิ่งต่างสถานที่ อุปกรณ์บางอย่างก็ไม่ได้มี ไม่ได้สะดวกสบายเหมือนอยู่บ้าน เพราะฉะนั้นต้องเตรียมของไปให้ครบ ทั้งของใช้ส่วนตัวลูกเพื่อความสะอาดปลอดภัย หรืออุปกรณ์อำนวยความสะดวกต่างๆก็ควรจะมี เพื่อให้เที่ยวได้อย่างมีความสุขค่ะ Mummily จะพาคุณพ่อคุณแม่จัดกระเป๋า พาลูกเที่ยว กับ 7 หมวดหมู่ ของใช้จำเป็นที่ต้องเตรียม เช็คกันเลยจะได้ไม่ลืม เริ่มต้นด้วยอุปกรณ์เดินทาง หมวดนี้จะขาดไม่ได้เด็ดขาด เพราะสำคัญต่อการเที่ยวสุดๆ อยากเที่ยวให้สนุก ก็ต้องมีอุปกรณ์ช่วยอำนวยความสะดวกอย่าง เป้อุ้มเด็กที่จะช่วยพยุง รับน้ำหนักลูกได้ดี และรถเข็นที่จะช่วยดูแลแบ่งเบาภาระคุณพ่อคุณแม่ได้ เพราะถ้าจะให้คุณพ่อคุณแม่อุ้มลูกเป็นเวลานานๆ ก็คงจะปวดเอว ปวดหลัง เที่ยวแบบไม่สุดแน่นอนค่ะ เสื้อผ้าลูก สิ่งนี้ต้องเตรียมให้ครบเลยค่ะ จะไปกี่วันต้องใช้กี่ชุด เตรียมไปเยอะดีกว่าขาด เพราะถ้าหากเกิดเหตุฉุกเฉิน จะใช้ชุดซ้ำ ก็ไม่ดีต่อผิวหนังและความสบายต่อลูกอย่างแน่นอน ที่สำคัญคือต้องดูด้วยว่าสถานที่ๆจะไปเป็นอย่างไร ถ้าไปทะเล ลูกโตมาหน่อยก็ห้ามลืมชุดว่ายน้ำเด็ดขาด เพราะเป็นของคู่กันเลยค่ะ…

  • 6 วิธีเลือกกระติกน้ำให้ลูกรัก เมื่อถึงวัยเลิกขวดนม!

    บ้านไหนลูกเริ่มโต เริ่มถึงวัยที่ต้องโบกมือลาขวดนมกันแล้วบ้าง แต่ก็เอ๊ะช่วงไหนที่ลูกควรเลือกขวดนม Drink in the Box ขอตอบให้ค่า ช่วงอายุที่เหมาะสมที่สุดในการเลิกขวดนมคือช่วงอายุตั้งแต่ 1 ปีขึ้นไป เพราะด้วยปัจจัยหลายๆอย่างของลูกน้อย ทั้งฟันที่เริ่มขึ้น เรื่องพัฒนาการทั้งรางกาย กล้ามเนื้อ และ พัฒนาการทางด้านการเรียนรู้ จึงเหมาะอย่างยิ่งที่จะเลิกขวดนมเลยค่ะ และเมื่อลูกถึงวัยเลิกขวดนมแล้ว สเตปต่อไปคือคุณพ่อคุณแม่จะต้องหาแก้วน้ำหรือกระติกมาให้ลูกๆใช้ แทน เพื่อให้ลูกเริ่มฝึกลูกๆดื่มน้ำ ดูดน้ำ นอกจากเป็นวัยที่ควรหากระติกที่ช่วยให้ลูกหัดดื่ม หัดดูดแล้ว เด็กวัยตั้งแต่1ปีขึ้นไปนี้จะทั้งซน และเป็นช่วงที่ดื่มน้ำน้อยมาก เพราะช่วงวัยนี้มีความอยากรู้อยากลองอยากเล่นสนุกจนบางทีก็ลืมดื่มน้ำไป เพราะฉะนั้นจะเลือกซื้อกระติกให้ลูกทั้งทีต้องครอบคลุมทุกปัจจัยเลยค่า Drink in the Box มีวิธีเลือกการกระติกน้ำให้ลูกมาฝากคุณพ่อคุณแม่กันค่ะ 1. วัสดุของกระติกต้องแข็งแรงทนทาน แนบสนิท และปลอดภัยกับเด็กๆ เพราะเด็กวัยนี้เรียกได้ว่าแสบสุดๆ เป็นนักปามืออาชีพ ปาทุกอย่าง เพราะฉะนั้นการจะหากระติกซักใบให้ลูกจึงต้องคำนึงถึงความแข็งแรงทนทาน ตกไม่แตก เพราะจะได้ไม่ต้องซื้อ ไม่ต้องเปลี่ยนบ่อยๆ อีกทั้งกระติกที่ปิดได้สนิทจะสามารถพกพาไปข้างนอกได้โดยไม่ต้องกลัวว่าน้ำจะหกเลอะเทอะเลยค่ะ 2. หลอดดูดต้องนิ่ม หลอดใหญ่ ดูดง่าย เพราะจะเป็นตัวช่วยในการฝึกการดูดน้ำของเด็กวัยนี้ได้ดี ยิ่งถ้ามีวาล์วกันสำลักก็จะยิ่งดีสำหรับวัยเริ่มต้นเลยค่ะ 3. ความใสของกระติก และสีสันสดใส…

Leave a Reply